มุรตะฏอ มุเฏาะฮะรีย์ หรือที่รู้จักในชื่อ ชะฮีด มุเฏาะฮะรีย์ หรือ ครู มุเฏาะฮะรีย์ ท่านเป็นนักคิดนักเขียนชีอะห์ในศตวรรษที่ 14 ฮ.ศ เป็นหนึ่งในลูกศิษย์ของ อัลลามะฮ์ ตะบาตะบาอีย์ และ อิมามโคมัยนี ชะฮีด มุเฏาะฮะรีย์ ถือว่า เป็นหนึ่งในผู้มีอิทธิพลและเป็นหนึ่งในผู้นำทางปัญญาของการขับเคลื่อนการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน เป็นหัวหน้าสภาการปฏิวัติจนถึงวันที่ท่านถูกสังหาร
ก่อนการปฏิวัติอิสลาม การต่อสู้ทางปัญญาของ ชะฮีด มุเฏาะฮะรีย์ กับกระแสแนวคิดของลัทธิมาร์กซิสต์ในอิหร่าน ซึ่งถือว่าเป็นบทบาทที่สำคัญที่ทำให้เยาวชนหลีกห่างจากแนวคิดลัทธิมาร์กซิสต์ ท่านเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง ฮุซัยนีเยะห์ เอรชอด
ชะฮีด มุเฏาะฮะรีย์ มีผลงานที่เกี่ยวกับปรัชญาและเทววิทยาอิสลามมากมาย ท่านอธิบายคำสอนของอิสลามและชีอะห์โดยปรับปรุงให้ทันสมัย ซึ่งเป็นลักษณะหนึ่งของกิจกรรมทางปัญญาของท่าน ชะฮีด มุเฏาะฮะรีย์จัดเตรียมคำสอนอิสลามซึ่งก่อนหน้านี้นำเสนอในรูปแบบของเนื้อหาที่ซับซ้อนและเข้าใจยากให้เป็นภาษที่ผู้ฟังเข้าใจ หนังสือของท่านมีหัวข้อทางศาสนาต่างๆซึ่งได้รับการตีพิมพ์หลายครั้งในภาษาต่างๆ
ชะฮีด มุเฏาะฮะรีย์ เกิดเมื่อวันที่ 13 บะห์มัน ปี 1298 ณ ฟรีมอนปริมณทลของเมืองมัชฮัด
มูฮัมหมัด ฮูเซน มุเฏาะฮะรีย์ บิดาของ ชะฮีด มุเฏาะฮะรีย์ เป็นที่เคารพนับถือจากผู้คนในฟรีมอน และเป็นหนึ่งในลูกศิษย์ของ ออคุน คุรอซอนี ชะฮีด มุเฏาะฮะรีย์ได้กล่าวไว้ว่า ด้วยกับความศรัทธา ความยำเกรง การกระทำอันชอบธรรม และความจริงใจของบิดาของฉัน ได้ทำให้ฉันเป็นคนดี
ชะฮีด มุเฏาะฮะรีย์ เรียนรู้วิชาการพื้นฐานจากบิดาของท่าน และ เริ่มเรียนที่โรงเรียนศาสนามัชฮัดตั้งแต่อายุ 13 ปี ในปี 1316 ท่านไปที่เมืองกุมและอยู่ที่นั่นประมาณ 15 ปี และใช้ประโยชน์จากบทเรียนของอาจารย์ที่นั่น เช่น อยาตุลลอฮ์ บูรูเยิรดีย์ อิมามโคมัยนี และอัลลามะฮ์ ตะบาตะบาอีย์ หลังจากนั้น ดังที่ภรรยาของท่านกล่าวไว้ ท่านออกจากเมืองกุมและย้ายไปเตหะรานเนื่องด้วยเหตุผลทางปัจจัยยังชีพ
ชะฮีด มุเฏาะฮะรีย์ แต่งงานในปี 1331 ท่านมีบุตรชายสามคน บุตรสาวสี่คน บุตรชายที่มีชื่อเสียงที่สุดของท่านคือ อาลี มุเฏาะฮะรีย์ ซึ่งเคยเป็นสมาชิกสภาอิสลามมาสองสมัย มูฮัมหมัด มุเฏาะฮะรีย์ บุตรชายอีกคนของชะฮีด มุเฏาะฮะรีย์ สำเร็จการศึกษาที่สถาบันศาสนาเมืองกุม และ ศึกษาที่มหาวิทยาลัยโตรอนโต ประเทศแคนาดา จนกระทั่งเขาได้รับปริญญาเอกด้านปรัชญาศาสนา Ali Ardeshir Larijani อดีตหัวหน้าสภาอิสลามแห่งอิหร่าน คือลูกเขยคนหนึ่งของชะฮีด มุเฏาะฮะรีย์
ชะฮีด มุเฏาะฮะรีย์ อพยพจากเมืองกุม ไปยัง เตหะรานในปี 1331 และสอนที่โรงเรียน เซะพะร์ซอลอด (ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัย ชะฮีด มุเฏาะฮะรีย์) และสอนที่โรงเรียน มัรวี ผลงานแรกของท่านคือ หนังสืออรรถาธิบายหลักการปรัชญาและเระออลิสม์ (ผลงานของอาจารย์ของท่าน อัลลามะฮ์ ตะบาตะบาอีย์ ) ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ในปี 1332 และตั้งแต่ปี 1334 ท่านได้สอนที่คณะเทววิทยาและอิสลามศึกษาของมหาวิทยาลัยเตหะราน
ลายมือของชะฮีด มุเฏาะฮะรีย์ ในเรือนจำชั่วคราวชาห์บานี 15 โครดอด 1342
ในวันที่ 15 โครดอด 1342 หลังจากการประท้วงของประชาชนในการต่อต้านระบบกษัตริย์ปาห์ลาวีที่ได้จับกุมท่านอิมามโคมัยนี ท่านชะฮีด มุเฏาะฮะรีย์ถูกจำคุกพร้อมกับนักการศาสนาคนอื่นๆ และได้รับการปล่อยตัวหลังจากผ่านไป 43 วัน หลังจากการลุกฮือในวันที่ 15 โครดอด ท่านร่วมมือกับพรรคการเมืองและศาสนาในอิหร่าน ในปี 1344 ท่านได้รับรางวัลจาก UNESCO จากการตีพิมพ์หนังสือเรื่องเล่าสอนใจสองเล่ม
ในช่วงเย็นของวันที่ 11 เดือน โอรดีเบเฮ็ช ปี 1358 ชะฮีด มุเฏาะฮะรีย์ ถูกมูฮัมหมัด อาลี บาซิรี สมาชิกของกลุ่มฟูรกอนลอบสังหาร ขณะกลับจากการประชุมที่บ้านของยะดุลลอห์ ซาฮาบี ในเช้าวันพฤหัสบดีที่ 12 โอรดีเบเฮ็ช หลังจากพิธีแห่ร่างของท่านในเตหะรานแล้วได้เคลื่อนย้ายร่างของท่านไปยังเมืองกุม อยาตุลลอฮ์ กุลพัยกอนีย์ ได้นมาสญะนาซะฮ์ให้แก่ท่าน ท่านถูกฝังอยู่ในบริเวณฮะรัมท่านหญิงมะอ์ศูมะ ใกล้กับกุโบร์ของอยาตุลลอฮ ฮออิรีย์ อยาตุลลอฮ ศ็อดร์ และ อยาตุลลอฮ คูนซอรีย์ ท่านอิมามโคมัยนีออกสาส์นแสดงความเสียใจเนื่องในโอกาสการจากไปของท่าน