นายกรัฐมนตรีคนที่2ของอิหร่าน มูฮัมหมัด ญะวาด บอฮุนัร
มูฮัมหมัด ญะวาด บอฮุนัร (เกิด ปี 1312 เมือง เคร์มอน – เสียชีวิต 8 ชาห์รีวัร ปี 1360, กรุงเตหะราน) เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่2ของอิหร่านหลังการปฏิวัติในปี 1357 เขาถูกลอบสังหารโดยสมาชิกขององค์กรมุญาฮิดีนคัลก์ เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านวิทยาศาสตร์การศึกษาและปริญญาเอกด้านเทววิทยาจากมหาวิทยาลัยเตหะราน ก่อนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี บอฮุนัร เคยทำงานเป็นรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการคนที่3ของอิหร่าน บอฮุนัร ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในบรรณาธิการและผู้เขียนหนังสือศาสนาคนแรกในโรงเรียนของอิหร่านก่อนและหลังการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน
ชีวประวัติ
เขาเกิดในปี 1312 ในย่านเก่าแก่แห่งหนึ่งของเมืองเคร์มอน ที่เรียกว่าย่านชะห์ร ซึ่งเป็นย่านที่เก่าแก่และยากจนแห่งหนึ่งของเมืองเคร์มอน มูฮัมหมัด ญะวาด บอฮุนัร เป็นลูกคนที่2ของครอบครัวและมีพี่น้อง9คน บิดาของเขาเป็นคนงานที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายและหาเลี้ยงชีพจากร้านเล็กๆ เมื่ออายุได้5ขวบ เขาถูกส่งไปโรงเรียนประจำที่เพื่อศึกษาและเรียนรู้อัลกุรอานจากครูโรงเรียนประจำ เมื่ออายุ11ปี ได้รับการแนะนำจาก ฮุจญตุ้ลอิสลาม ฮะกีกีย์ลูกชายของครูประจำ เขาเข้าเรียนที่โรงเรียนมะอ์ศูมีเยะห์ของเคร์มอน และเริ่มศึกษาศาสนา นอกจากศึกษาศาสนาแล้วเขายังศึกษาในโรงเรียนมัธยมตอนปลายโดยเข้าร่วมการสอบต่างๆ เขาเข้ารับการศึกษาศาสนาที่เมืองกุมในปี 1332 ในปีแรกของการศึกษาศาสนาที่เมืองกุม เขาตั้งรกรากอยู่ในโรงเรียนฟัยซีเยะห์ และศึกษาวิชา เฟอเยะห์ และ มะกาซิบ กับครูผู้สอน เช่น อยาตุลลอฮ์ ซุลตอนีย์ อยาตุลลอฮ์ มูญาฮิดีย์ และเช็ค มูฮัมหมัด ญะวาด อิศฟาฮานีย์ และในปีนี้เองที่เขาได้รับประกาศนียบัตรมัธยมตอนปลายด้วย เพื่อที่จะศึกษาต่อและสำเร็จการศึกษาทางศาสนา เขาได้เข้าเรียนหลักสูตรวิชาการคอเร็จญ์ตั้งแต่ปี 1333 และในขณะที่เข้าร่วมในหลักสูตรคอเร็จญ์ฟิกฮ์ของอยาตุลลอฮ์ โบรูเญิร์ดีย์ เขาได้เข้าเรียนหลักสูตรคอเร็จญ์อุศูลกับอิมาม โคมัยนีด้วยเป็นเวลา7ปี มูฮัมหมัด ญะวาด บอฮุนัร ยังได้ศึกษาหลักสูตรปรัชญากับอัลลามะฮ์ ตะบาตะบาอีย์ เป็นเวลา6ปี ในขณะเดียวกันก็เข้าเรียนในคณะเทววิทยาจนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาเทววิทยาในปี 1337 เขาศึกษาต่อที่เมืองนะญัฟ (ประเทศอิรัก) ไม่ถึงปี จากนั้นได้กลับมาที่เมืองกุมอีกครั้ง
ในปี 1337 มูฮัมหมัด ญะวาด บอฮุนัร ได้เดินทางไปที่ออบอดอนเพื่อไปเผยแผ่ศาสนา ในโอกาสที่รัฐบาลอิหร่านสมัยนั้นยอมรับอิสราเอล เขาบรรยายโจมตีประเด็นนี้อย่างรุนแรงและดุเดือด หลังจากจบการบรรยาย เขาถูกจับกุมโดยหัวหน้ากองบัญชาการตำรวจ นี่คือการเผชิญหน้าครั้งแรกของเขากับระบอบการปกครองของปาห์ลาวี ในเดือนอิสฟัน ปี 1342 เขาถูกจับกุมหลังจากบรรยายในมัสยิดเนื่องในโอกาสครบรอบเหตุการณ์ฟัยซีเยะห์ หลังจากนั้นเขาถูกจับขังคุกระยะสั้น 6 ครั้ง และตั้งแต่ปี 1350 เขาไม่ได้รับอนุญาตให้บรรยายอีก นอกจากการสอนแล้วเขาเขียนหนังสือเรียน 30 เล่ม เอกสารประกอบคำบรรยายเกี่ยวกับคำสอนศาสนาสำหรับการสอนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาจนถึงมหาวิทยาลัย นอกจากนี้เขายังดำเนินกิจกรรมทางสังคม และมีบทบาทในการก่อตั้งสำนักงานเผยแพร่วัฒนธรรมอิสลาม ศูนย์เอกเทวนิยม และโรงเรียนเรฟอห์
เขาเข้าร่วมเป็นสมาชิกสภาปฏิวัติในปี 1357 ตามคำสั่งของอิมามโคมัยนี และหลังจากชัยชนะของการปฏิวัติ โดยการยอมรับความรับผิดชอบในขบวนการศึกษา เป็นตัวแทนของชาวเคร์มอนในสภาผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐธรรมนูญ ผู้แทนสภาปฏิวัติอิสลามในกระทรวงศึกษาธิการ ผู้แทนของประชาชนชาวเตหะราน ในสภาอิสลามด้วยคะแนนเสียง 2,134,434 เสียง (ร้อยละของคะแนนเสียง: 64.80) จากนั้นเขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการในคณะรัฐมนตรีของมูฮัมหมัด อาลี ราญาอีย์ หลังจากการปลดบนีศัดร์ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี และเลือกตั้งให้ มูฮัมหมัด อาลี ราญาอีย์ เป็นประธานาธิบดี ตามคำเสนอของมูฮัมหมัด อาลี ราญาอีย์ (ผู้ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคหลังจาก ชะฮีดเฮชตี้ ถูกสังหารด้วยระเบิดในสำนักงานของพรรคสาธารณรัฐอิสลาม) ในปี ค.ศ. 1360 บอฮุนัร ถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรี และสภาได้ลงมติไว้วางใจแก่เขา และรัฐมนตรีของเขา ท้ายที่สุด บอฮุนัร ถูกสังหารพร้อมกับ มูฮัมหมัด อาลี ราญาอีย์ ในเหตุลอบวางระเบิดในสำนักงานนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 ชาห์รีวัร ปี 1360