“มีนอคอรี” หรือที่รู้จักกันว่า “งานลงลายคราม” เป็นศิลปะที่มีประวัติยาวนานประมาณห้าพันปี และถือเป็นหนึ่งในงานหัตถกรรมดั้งเดิม ปัจจุบันศิลปะชนิดนี้มักทำบนโลหะทองแดงเป็นหลัก แต่ก็สามารถทำบนทองคำ เงิน และเซรามิกได้เช่นกัน ทองคำเป็นโลหะเพียงชนิดเดียวที่ไม่ทำปฏิกิริยาออกซิเดชันเมื่อถูกหลอมรวมกับน้ำยา จึงสามารถลงลวดลายที่ละเอียดและเหมือนจริงได้ดีกว่าโลหะอื่น ๆ ขณะที่การลงลายบนทองแดงหรือเงินไม่สามารถให้คุณภาพที่เทียบเท่าได้ งานลงลายบนทองคำนี้เป็นงานหัตถกรรมของชาวซาเบียน ที่อาศัยอยู่ในเมืองอะห์วอซ และมีชื่อเรียกเฉพาะว่า “ทองคำซาบี”
การเกิดของน้ำยานั้นมาจากการผสมของออกไซด์ของโลหะกับเกลือชนิดต่าง ๆ แล้วนำไปเผาในอุณหภูมิสูง (ประมาณ 750–850 องศาเซลเซียส) ซึ่งจะทำให้เกิดสีสันขึ้นตามช่วงเวลาและอุณหภูมิที่ใช้ในการเผา ปัจจุบันเมืองหลักในการผลิตภาชนะลงลายคือเมืองอิสฟาฮาน ส่วนเครื่องประดับลงยาส่วนใหญ่ผลิตในเมืองอะห์วอซ โดยมีช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากที่ยังคงสร้างสรรค์ผลงานอันวิจิตรเหล่านี้
“มีนอคอรี” เป็นศิลปะที่มีต้นกำเนิดเมื่อประมาณห้าพันปีก่อน ใช้ในการตกแต่งเครื่องประดับและภาชนะหลากหลายประเภท ศิลปะนี้เป็นการผสมผสานระหว่างไฟกับดิน และหลอมรวมกับศิลปะการวาดภาพจนเกิดเป็นลวดลายที่งดงาม ตามความเห็นของนักวิชาการบางท่าน — จากการเปรียบเทียบงานลงลายของไบแซนไทน์กับโบราณวัตถุของอิหร่าน — เชื่อว่าศิลปะนี้มีต้นกำเนิดในอิหร่านและแพร่หลายไปยังประเทศอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ในยุโรปก็มีการค้นพบโบราณวัตถุที่มีอายุเก่าแก่มากเช่นกัน ตัวอย่างเช่น แหวนทองคำ 6 วงที่ค้นพบในไซปรัส ซึ่งมีอายุย้อนหลังถึง 13 ศตวรรษก่อนคริสตกาล และถือเป็นตัวอย่างของงานลงลายแบบฝังลาย นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นเทพเจ้าซุสอันโด่งดังที่ค้นพบในประเทศกรีซ ซึ่งมีอายุประมาณ 500 ปีก่อนคริสตกาล อีกทั้งจากการขุดค้นในเมืองนะฮอวันด์ ยังมีการค้นพบต่างหูทองคำหนึ่งคู่ที่มีลักษณะงานช่างแบบยุคศตวรรษที่ 7 ถึง 8 ก่อนคริสตกาล ซึ่งแสดงถึงความประณีตในการทำเครื่องประดับในยุคนั้นด้วย.