ถ้ำราอีส
ถ้ำ ราอีส มีทางเข้าหลักอยู่ในสวน Talar มีทั้งอุโมงค์ ทางเดินแคบๆ และยาว มีห้องต่างๆ 20 ห้อง มีบ่อน้ำหลายบ่อที่ลึกที่สุดถึง 10 เมตร มี 3 ชั้นซึ่งประกอบด้วย 2 ร่องน้ำที่เป็นวงกลมและแนวนอน
ถ้ำ ราอีส มีทางเข้าหลักอยู่ในสวน Talar มีทั้งอุโมงค์ ทางเดินแคบๆ และยาว มีห้องต่างๆ 20 ห้อง มีบ่อน้ำหลายบ่อที่ลึกที่สุดถึง 10 เมตร มี 3 ชั้นซึ่งประกอบด้วย 2 ร่องน้ำที่เป็นวงกลมและแนวนอน
Niaser Square เป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ของเมือง Niaser ห่างจาก กาชาน ไปทางตะวันตก 20 กิโลเมตร สิ่งปลูกสร้างนี้เรียกอีกชื่อว่า วิหารไฟ Sasanian แห่ง Niaser ตั้งอยู่ใกล้กับน้ำพุ Eskandarieh อยู่ตำแหน่งพื้นที่ท่องเที่ยว ทำให้เป็นหนึ่งในสิ่งปลูกสร้างสี่โค้งที่มีชื่อเสียงที่สุด นักวิจัยพิจารณาว่า อาคารนี้เป็นโครงสร้างจากยุค Parthian ตอนปลายหรือยุค Sassanid ตอนต้น อาคารหลังนี้ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น ป้ายบอกทาง อนุสรณ์สถาน หลุมไฟ และหลุมฝังศพของผู้อาวุโส ผลงานชิ้นนี้อยู่ในยุค Sassanid ชื่อ วิหารไฟไนเซอร์ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นหนึ่งในผลงานระดับชาติของอิหร่านเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 1938 โดยมีหมายเลขทะเบียน 316
บ้านอามีรีย์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนน Alavi ใน กาชาน สร้างขึ้นในสมัย Zandiyeh และได้รับการพัฒนาในสมัย Qajar มีโครงสร้างพื้นฐานที่กว้างขวาง มีห้องพัก 85 ห้อง บ้านหลังนี้ยังมีลานหลายส่วน โดยลานที่เก่าแก่ที่สุดคือ ลานด้านนอกและด้านใน บ้านหลังนี้เหมือนกับบ้านประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ใน กาชาน ประกอบด้วยสองส่วน ด้านนอกและด้านใน ในแต่ละส่วนจะมี เช่น สระน้ำ เฉลียง ห้องที่มี 3 ประตู และวังที่มี 7 ประตู ซึ่งสามารถมองเห็นพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นที่พักของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ
บ้าน ตะบาตะบาอีย์ ซึ่งขึ้นทะเบียนภายใต้เลขที่ 1504 สร้างขึ้นในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 13 โดย Haj Seyed Jafar Tabatabai Natanzi หนึ่งในพ่อค้าของ Natanzi ที่อาศัยอยู่ใน กาชาน ในย่าน Sultan Amir Ahmad สถาปนิกคือ Ustad Ali Maryam Kashani รวมถึงการฉาบปูนและภาพวาดโดยลูกศิษย์ของ Mirza Abolhasan Sani al-Mulk Ghafari Kashani โดยอยู่ภายใต้การดูแลของเขา
ห้องอาบน้ำ สุลต่าน อามีร อะห์หมัด ในยุคสมัยของ Qajar ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดกาชาน, ถนน อาลาวีย์- ซอยสุลต่าน อามีร อะห์หมัด ห้องอาบน้ำแห่งนี้ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมประจำชาติของอิหร่านเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 1977 โดยขึ้นทะเบียนเลขที่ 1351
เรือกรีกเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของเกาะ คีช เรือลำนี้เกยตื้นเมื่อวันที่ 26 กรกฏาคม 1966 ใกล้หมู่บ้าน “บากู” เรือลำนี้สร้างในปี 1322 โดยบริษัทวิลเลียม แฮมิลตัน ของเมืองกลาสโกว์ น้ำหนักของเรือ 7061 ตัน มีความยาว 136 เมตร เรือลำนี้ได้เปลี่ยนมือระหว่างจากเจ้าของชาวอังกฤษ ชาวอิหร่าน และเจ้าของคนสุดท้ายคือชาวกรีก ชื่อเรือคือ “Empire Trumpet”, “Naturalist”, “Korush Parsi”, “Hamadan” และ ขณะเกยตื้นมีชื่อว่า “Kola F” สาเหตุของการเกยตื้นยังไม่เป็นที่เเน่ชัด
สวนน้ำโลมา เกาะคีช ในจังหวัด Hormozgan เป็นหนึ่งในสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในคีช และได้รับความนิยมอย่างมากในทุกๆปี สวนน้ำโลมา มีพื้นที่ขนาดใหญ่ถึง 100 เฮกตาร์ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะคีช สวนน้ำแห่งนี้ไม่เพียงแต่มีโลมา เท่านั้น แต่ยังมีสวนนก อุโมงค์สัตว์เลื้อยคลาน ซึ่งเหมือนกับสวนสัตว์ ที่นี่ยังมีพื้นที่สีเขียวที่มีพืชหายากหลากหลายสายพันธุ์อีกด้วย
ศูนย์ดำน้ำคีช เริ่มกิจกรรมอย่างเป็นทางการในด้านการดำน้ำและบริการสันทนาการทางทะเลตั้งแต่ปี 2018 ภายใต้ชื่อ ชมรมดำน้ำลึกคีช
ทางตอนเหนือของเกาะคีช มีน้ำไหลและน้ำผิวดินที่ไหลลงสู่หุบเขาโปรตุเกส น้ำที่ไหลเหล่านี้ทำให้พื้นที่นี่เขียวชอุ่มเป็นพิเศษ ต้นมะเดื่อที่เก่าแก่ที่สุดต้นหนึ่งตั้งอยู่ในเกาะแห่งนี้ และข้างๆต้นมะเดื่อยังมีต้นไม้สีเขียวขึ้นเป็นจำนวนมาก
เมืองใต้ดิน คารีซของเกาะคีช เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์บนเกาะแห่งนี้ ซึ่งมีอายุประมาณ 2,500 ปี เป็นตัวอย่างของศิลปะและเป็นความเชี่ยวชาญของสถาปนิกชาวอิหร่านในยุคนั้น ซึ่งทุกวันนี้ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ลักษณะเฉพาะโครงสร้างใต้ดินนี้ รวมถึงปะการัง การไหลเวียนของน้ำ อากาศที่เย็นใต้ดิน และเพดานปะการังที่เต็มไปด้วยซากดึกดำบรรพ์ที่เก่าแก่ ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดในอิหร่านและแม้แต่ในโลก