หัตกรรม
ศิลปะ หัตกรรม

งานโลหะ

การวิจัยทางโบราณคดีแสดงให้เห็นว่า ในยุคโบราณ เครื่องปั้นดินเผายังคงมีความสำคัญมากกว่าโลหะ อย่างไรก็ตาม มนุษย์ค่อย ๆ ตระหนักถึงคุณสมบัติหลากหลายของโลหะ เช่น ความสามารถในการหลอม ความแข็งแรง ความทนทาน และอายุการใช้งานที่ยาวนาน จึงเริ่มนำโลหะมาใช้แทนกระดูก หิน ไม้ และดินเผา ในการผลิตเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์ ทำสงคราม และทำเกษตรกรรม ด้วยเหตุนี้ ตั้งแต่เริ่มมีการใช้โลหะในช่วงสหัสวรรษที่8 ก่อนคริส์ศักราช  วัตถุโลหะจึงมีบทบาทสำคัญในการก่อร่างสร้างอารยธรรมมนุษย์ และกลายเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน โลหะมีความคงทน แข็งแรง ไม่แตกหักง่าย และคงรูปร่างเดิมไว้ได้ดี จึงถือเป็นหลักฐานสำคัญในการศึกษาเชิงวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และโบราณคดี ปัจจัยเดียวที่ทำให้วัตถุโลหะโบราณสูญหายไป คือการขุดค้นและละโมบของบุคคลที่ไม่รู้คุณค่า ซึ่งมักหลอมโลหะมีค่าเพื่อนำไปขายเป็นแท่งในตลาด การค้นพบโลหะและแหล่งแร่ ตั้งแต่ยุคโบราณในอิหร่าน ได้วางรากฐานสู่อุตสาหกรรมใหม่ ที่แตกต่างจากงานปั้นเครื่องดินเผาโดยสิ้นเชิง ประวัติศาสตร์งานโลหะในอิหร่านที่ยาวนานกว่า 7,000 ปี เป็นหลักฐานชัดเจนถึงความชำนาญของศิลปินชาวอิหร่านในศิลปะใหม่นี้ และการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องหลายพันปี จากการขุดค้นทางโบราณคดี พบว่า ยุคประวัติศาสตร์  คือช่วงเวลาที่ศิลปะการทำโลหะในอิหร่านรุ่งเรืองที่สุด โดยมีความหลากหลายของโลหะ การออกแบบลวดลายงดงาม และความรุ่มรวยทางศิลป์ ผลงานโดดเด่นของศิลปะและเทคโนโลยีในอิหร่านโบราณ ได้แก่ วัตถุที่ทำจาก ทองคำ เงิน […]

Read More
ศิลปะ หัตกรรม

การปั้นเครื่องปั้นดินเผา

การปั้นเครื่องปั้นดินเผา คือการสร้างภาชนะโดยใช้ดินเหนียว และภาชนะที่ได้จากกระบวนการนี้เรียกว่า “เซรามิก” หรือ “เครื่องปั้นดินเผา” ตัวอย่างที่รู้จักกันดี ได้แก่ หม้อดิน และ ถ้วยดินเผา ก่อนที่แก้วจะได้รับความนิยม เครื่องปั้นดินเผาถือเป็นภาชนะหลักที่มนุษย์ใช้กันอย่างแพร่หลาย ดินที่ดีที่สุดสำหรับการปั้นคือดินเหนียว ซึ่งมักมีสีแดง เนื่องจากมีปริมาณเหล็กสูง ศิลปะการปั้นดินเผาเป็นหนึ่งใน อุตสาหกรรมแรกสุดของมนุษย์ แม้ต้นกำเนิดของมันจะยังไม่แน่ชัด แต่จากหลักฐานโบราณเชื่อกันว่ามีรากฐานมาจากดินแดนโบราณ สุเมอร์ อย่างไรก็ตาม การค้นพบอารยธรรมจิรอฟต์ เมื่อไม่นานมานี้ ทำให้ทฤษฎีดังกล่าวถูกตั้งข้อสงสัย อารยธรรม “คนาร์ ซอนดอล” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจิรอฟต์ มีอายุประมาณ 6,000 ปีและแผ่นจารึกที่ขุดพบจากที่นี่ถูกส่งไปให้ผู้เชี่ยวชาญใน สหรัฐฯ และฝรั่งเศส ถอดรหัส โดยผลการศึกษาชี้ว่า ระบบอักษรของที่นี่ มีอายุเก่ากว่าระบบอักษรของอารยธรรมซูซา ถึง 300 ปี เครื่องปั้นดินเผา อาจนับเป็นหนึ่งในสิ่งประดิษฐ์ที่เก่าแก่ที่สุดของมนุษยชาติ เมื่อมนุษย์ยุคแรกเริ่มคิดถึงการเก็บน้ำและอาหาร และค้นพบคุณสมบัติของดินเหนียวที่สามารถขึ้นรูปได้ง่าย พวกเขาจึงเริ่มสร้างภาชนะดินเผาในรูปแบบต่าง ๆ    

Read More
ศิลปะ หัตกรรม

มุกรานัส

มุกรานัส หรือที่รู้จักในชื่อ “เท้ากวาง” เป็นหนึ่งในองค์ประกอบการตกแต่งทางสถาปัตยกรรมของอิหร่าน มุกรานัสเป็นรูปแบบการตกแต่งเชิงปริมาตร (สามมิติ) และลักษณะการจัดวางช่องหรือซุ้มประดับ ซึ่งมักพบอยู่ใต้โดมหรือครึ่งโดมบริเวณเฉลียงหน้าประตู ช่องทางเข้า ใต้ยอดหออะซาน เหนือเฉลียงของมัสยิด เหนือช่องจุดชี้ทิศมักกะฮ์ และในอาคารอื่นๆ ในการก่อสร้างมุกรานัส นิยมใช้วัสดุต่างๆ เช่น อิฐ ปูนปลาสเตอร์ กระเบื้อง ไม้ หรือโลหะ โดยแต่ละชั้นของช่องซุ้มจะยื่นออกมาจากชั้นล่าง ทำให้ดูเหมือนปิดช่องหรือเชื่อมต่อกัน ช่องเหล่านี้มักประกอบด้วยลวดลายที่นูนและเว้า พร้อมการตกแต่งลวดลายที่หลากหลาย มุกรานัสถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญในการตกแต่งสถาปัตยกรรม โดยเฉพาะในอาคารศาสนา เช่น มัสยิดและสุสาน มักถูกสร้างเป็นชั้นๆ ซ้อนกัน เพื่อให้เกิดความงามทางสายตา หรือเพื่อเปลี่ยนผ่านจากรูปทรงเรขาคณิตหนึ่งไปสู่อีกรูปทรงหนึ่งอย่างกลมกลืน เดิมที มุกรานัสมีบทบาททางโครงสร้าง เช่น การรองรับโดม แต่ต่อมาได้กลายเป็นองค์ประกอบเชิงตกแต่งอย่างเต็มรูปแบบ โดยทั่วไป มุกรานัส จะอยู่ในมุมเว้าของเพดาน แต่สามารถพบได้ตามส่วนบนของผนัง เพดาน มุมอาคาร หรือซุ้มประตู บางสถาปนิกยังใช้มุกรานัสที่ด้านหน้าอาคาร และสามารถออกแบบได้อย่างชำนาญจนไม่ทำให้อาคารรับน้ำหนักเกินหรือลดความมั่นคงของโครงสร้าง มุกรานัส เป็นการตกแต่งที่ประกอบด้วยรูปทรงเว้า-นูนตามแบบแผน บางครั้งมีลักษณะคล้ายหินงอกห้อยลงมา ถือเป็นการตกแต่งเชิงปริมาตรอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นการจำลองลวดลายเรขาคณิตและงานฝีมือในศิลปะอิสลามให้อยู่ในรูปสามมิติ การใช้มุกรานัสเติบโตขึ้นอย่างมากในงานสถาปัตยกรรมอิสลาม ทั้งในอิหร่านและประเทศอิสลาม-อาหรับอื่นๆ   […]

Read More
ศิลปะ หัตกรรม

การแกะสลัก

การแกะสลัก ถูกอธิบายว่าเป็นศิลปะที่ประณีตบนเหล็ก ศิลปะและหัตถกรรมแขนงนี้ยังคงดำเนินอยู่ในประเทศของเราโดยใช้วิธีการแบบดั้งเดิม การแกะสลักสามารถทำได้บนโลหะหลากหลายชนิด เช่น ทองแดง เงิน ทองเหลือง ทองคำ หรือโลหะผสมของทองกับโลหะอื่น ๆ ขั้นตอนเริ่มต้นของการแกะสลักคือ การทายางมะตอยไว้ด้านหลังของแผ่นโลหะที่จะนำมาแกะสลัก วิธีนี้ช่วยป้องกันไม่ให้โลหะเกิดรอยย่นหรือบิดเบี้ยวจากการตอกเคาะด้วยค้อน หลังจากทายางมะตอยเรียบร้อยแล้ว จะวาดลวดลายที่ต้องการลงบนโลหะ และเริ่มใช้เครื่องมือพิเศษที่เรียกว่า “นีมบัร” เพื่อแกะเนื้อตามลวดลายบนผิวโลหะนั้นออก บางครั้ง ตามความชอบของช่างฝีมือ งานแกะสลักจะถูกตกแต่งเพิ่มเติมด้วยเงินหรือทองเพื่อเพิ่มความงดงามให้กับลวดลาย การแกะสลักแบบสมัยใหม่ หมายถึงการสร้างลวดลายและรูปแบบต่าง ๆ บนวัสดุ เช่น โลหะ กระเบื้อง ไม้ และวัสดุอื่น ๆ โดยอาศัยการทำให้พื้นผิวเกิดนูนหรือเว้าด้วยเครื่องมือโลหะ ซึ่งอาจเป็นสิ่ว ไขควง หรือมีดก็ได้ เครื่องแกะสลักยุคใหม่ถูกพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย ซึ่งใช้กลไกการเคลื่อนที่ด้วยราง แบริ่งและมอเตอร์แบบสเต็ปเปอร์พร้อมติดตั้งหัวแกะสลักที่ทำจากทังสเตนและคาร์ไบด์ ซึ่งเป็นวัสดุที่แข็งแรงที่สุดชนิดหนึ่งในโลก ควรทราบว่า หัวแกะสลัก (ปากกาแกะสลัก) นี้สามารถเปลี่ยนเป็นวัสดุเซรามิกได้เช่นกัน คำสั่งในการแกะสลักสามารถส่งไปยังกลไกของเครื่องได้สองวิธี วิธีแรกคือผ่านคอมพิวเตอร์ โดยใช้ซอฟต์แวร์เฉพาะของเครื่อง ซึ่งสามารถควบคุมผ่านโปรแกรมต่าง ๆ ที่รันบน Windows และให้ผลลัพธ์เหมือนกับเครื่องพล็อตเตอร์ระดับมืออาชีพ ส่วนวิธีที่สองคือการสั่งงานผ่านตัวเครื่องเอง โดยสามารถแกะลายพื้นฐาน เช่น […]

Read More
ศิลปะ หัตกรรม

การทอพรม

เราไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดเกี่ยวกับประวัติการกำเนิดของพรม แต่จากหลักฐานทางโบราณคดีและการค้นพบต่างๆ ทำให้เชื่อมั่นได้ว่าศิลปะต่างๆ เช่น การสานตะกร้า การทอเสื่อ การทำสักหลาด การทอพรมแบบพื้นเมืองเช่น “ซิลูบอฟี” “ญาญีม” และ “กิลิม” ถือเป็นพื้นฐานเบื้องต้นที่นำไปสู่การพัฒนาเป็นศิลปะการทอพรมที่แท้จริง โดยในยุคแรกเริ่ม พรมจะมีลวดลายที่เรียบง่าย มีลักษณะแตกมุมและเกิดจากจินตนาการ มุ่งเน้นที่การใช้สอยเป็นหลัก และพรมในปัจจุบันก็คือผลลัพธ์ของการพัฒนามาจากพรมยุคโบราณเหล่านั้น เกี่ยวกับต้นกำเนิดของการทอพรม เดิมทีนักวิจัยเชื่อว่ามาจากอารยธรรมโบราณ เช่น อียิปต์ โดยเป็นข้อสันนิษฐานเชิงทฤษฎี แต่เมื่อมีการค้นพบ “พรมปาซีริก” ในปี 1949 โดยศาสตราจารย์รูเดนโก ทฤษฎีดังกล่าวก็เปลี่ยนไป การค้นพบเชิงประจักษ์นี้ย้ายต้นกำเนิดของการทอพรมจากริมฝั่งแม่น้ำไนล์ เด็จเลห์ และยูเฟรทีส ไปยังเอเชียกลาง และพิสูจน์ว่าแหล่งกำเนิดศิลปะการทอพรมคืออิหร่าน สำหรับยุคจักรวรรดิซาสซาเนียน ข้อมูลมีอยู่อย่างจำกัด พรมที่มีชื่อเสียงในยุคนี้คือ “พรมบาฮาริสตาน” ซึ่งทอขึ้นเพื่อกษัตริย์โคสโร อานูชีรวาน ขนาดพรมประมาณ 450 x 90 ก้าว พรมผืนนี้แสดงถึงสี่ฤดูในลวดลาย และเมื่ออาหรับพิชิตเปอร์เซียได้ พรมนี้ก็ถูกส่งไปยังเมืองมะดีนะฮ์โดยแม่ทัพซะอ์ด และถูกตัดแบ่งออกเพื่อแจกจ่ายในหมู่ชาวมุสลิม เมื่ออิสลามปรากฏขึ้น ด้วยหลักคำสอนที่เน้นความเรียบง่าย และการไม่ยึดติดในความหรูหรา ทำให้ศิลปะการทอพรมซบเซา แต่ต่อมาเมื่อราชวงศ์อับบาซียะห์ซึ่งให้ความสำคัญกับความงามและความหรูหราได้ขึ้นสู่อำนาจ การทอพรมก็กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง […]

Read More
ศิลปะ หัตกรรม

งานฝีมือไม้แปะชิ้น

เมื่อถูกถามว่า “งานมารเก็ตทรี (Marquetry) คืออะไร?” สามารถกล่าวได้ว่า คำว่า มารเก็ต ในภาษาอาหรับหมายถึง “แผ่นปะ” “ชิ้นเล็ก ๆ” หรือ “ลายเส้น” ซึ่งงานฝีมือที่มีลวดลายสามารถเรียกได้ว่า Marquetry หรือ Mosaic ได้เช่นกัน งานมารเก็ตทรีเป็นศิลปะที่ประกอบขึ้นจากชิ้นไม้ โลหะ ผ้า กระเบื้อง ฯลฯ ขนาดเล็กที่นำมาจัดวางอย่างประณีตให้เกิดลวดลายที่งดงาม งานมารเก็ตทรีคือการสร้างลวดลายโดยใช้เศษวัสดุขนาดเล็กบน หัตถกรรม หรืองานประดิษฐ์ ศิลปะนี้รุ่งเรืองในยุคเซลจูค และผลงานจากศตวรรษที่ 6 ฮิจเราะห์ยังคงแสดงถึงความประณีตของงานในยุคนั้นได้อย่างดีเยี่ยม ในศตวรรษที่ 8 ฮิจเราะห์ ช่างฝีมือชาวอิหร่านได้สร้างผลงานอันน่าทึ่งโดยผสานกับรูปทรงเรขาคณิตอันงดงามและความรู้ทางคณิตศาสตร์ ก่อนหน้านั้น “มารเก็ตทรีแบบกระเบื้อง” เป็นที่นิยมมากกว่า แต่ศิลปินชาวอิหร่านได้นำมารเก็ตทรีมาใช้กับพื้นผิวที่เล็กและละเอียดมากขึ้น จนกลายเป็นต้นแบบของศิลปะตะวันออก ในเมืองต่าง ๆ ของอิหร่าน เช่น อิสฟาฮาน ตับรีซ ยัซด์ กาชาน ฯลฯ ยังคงพบตัวอย่างของงานมารเก็ตทรีและกระเบื้องมารเก็ตตามอาคารประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ส่วน มารเก็ตทรีไม้ นิยมทำบนพื้นไม้โดยใช้เทคนิคการตัดแต่งไม้สีต่าง ๆ […]

Read More
ศิลปะ หัตกรรม

คะฏัมคอรี

 “คะฏัม” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “คะฏัมคอรี” คือศิลปะการประดิษฐ์ลวดลายด้วยการฝังชิ้นส่วนรูปทรงเรขาคณิตขนาดเล็ก เช่น สามเหลี่ยม หรือรูปหลายเหลี่ยมปกติ โดยชิ้นส่วนเหล่านี้ทำจากวัสดุต่าง ๆ เช่น กระดูก ไม้ และโลหะ ชนิดของไม้ที่ใช้ ได้แก่ ไม้อีโบนี (สีดำ), ฟูเฟล (ดำและน้ำตาลเข้ม), วอลนัต (น้ำตาล), บักกัม (แดง), พุทรา (น้ำตาลอ่อนอมแดง), ส้ม (น้ำตาลอ่อน), เมเปิล (น้ำตาลอ่อน), คิเกเลีย, ป็อปลาร์ (ขาว), และบ็อกซ์วูด (เหลือง) ส่วนกระดูกที่ใช้รวมถึงงาช้าง และกระดูกของอูฐ วัว และม้า สำหรับโลหะนั้นใช้เส้นลวดทองเหลือง เงิน และบางครั้งทอง อย่างไรก็ตาม ไม้บางชนิดนำเข้าจากอินเดีย แต่เนื่องจากมีราคาสูง จึงมีการใช้น้อยลงในปัจจุบัน โดยมักใช้การย้อมสีไม้ด้วยสีเคมีเพื่อรักษาความหลากหลายของสี เช่น เหลือง ดำ และแดง ส่วนงาช้างและกระดูกสัตว์อื่น ๆ ก็มีการใช้น้อยลงเช่นกัน โดยมักย้อมกระดูกวัวหรือม้าให้เป็นสีอื่น เช่น […]

Read More
ศิลปะ หัตกรรม

ศิลปะการแกะสลักไม้

การแกะสลักไม้เป็นศิลปะในการสร้างลวดลายและลายเส้นที่เรียบง่าย และมีความตื้นบนผิวไม้ โดยใช้เครื่องมือที่ง่ายและอาศัยความชำนาญและความคิดสร้างสรรค์ของช่างแกะสลัก ผู้เชี่ยวชาญถือว่าการแกะสลักไม้เป็นหนึ่งในงานศิลปะและงานฝีมือที่เก่าแก่ที่สุดที่เกี่ยวข้องกับไม้ รองลงมาจากการทำเครื่องมือไม้ทรงกลม (การหมุนไม้) ซึ่งงานไม้โบราณที่ค้นพบก็ยืนยันความเห็นนี้ได้เป็นอย่างดี ศิลปะการแกะสลักไม้ได้รับความนิยมมากในจังหวัดมาซันดารอน โดยเฉพาะในหมู่บ้านอย่างวารัซเดะอาลิยา โญร์บันด์ และอังการูด ซึ่งอยู่ในเขตชาเมสตาน ของอำเภอนูร์ ไม้ที่ใช้โดยช่างแกะสลักมักเป็นไม้ท้องถิ่นที่หาได้ง่าย เช่น ไม้ราช เมเปิ้ล มลัจ และไม้ชิมชัด ส่วนวัสดุอื่นๆ ที่ใช้ร่วมด้วยได้แก่ ซีลเลอร์ คีลเลอร์ และทินเนอร์ เครื่องมือที่ใช้โดยช่างแกะสลักประกอบด้วย ขวาน สิ่ว เลื่อย ตะไบ ไม้ขัด มีดแกะ (ซึ่งเรียกในท้องถิ่นว่า “รอคห์”) มีดตัด และเครื่องขูดไม้ ช่างฝีมือเหล่านี้ใช้ความชำนาญและความคิดสร้างสรรค์สร้างผลงานที่สวยงามซึ่งนอกจากจะมีประโยชน์ใช้สอยแล้วยังมีคุณค่าทางศิลปะด้วย ผลงานแกะสลักไม้ส่วนใหญ่ได้แก่ “ญูเล” ภาชนะสำหรับเทนมและน้ำมัน “เคเลซ” ภาชนะตวงนมและน้ำมัน “ลาก์” ภาชนะสำหรับตำครีมเปรี้ยวไม้เท้า โถน้ำตาลประดับ และช้อนไม้หลากหลายชนิด ขั้นตอนการทำงานของช่างแกะสลักไม้ในจังหวัดมาซันดารอนมีดังนี้ หลังจากตัดต้นไม้เป็นท่อนตามขนาดคร่าวๆ ของผลิตภัณฑ์ที่ต้องการจะทำ ช่างจะใช้สิ่วแกะไม้ให้เป็นรูปทรงพื้นฐาน จากนั้นจะนำชิ้นงานที่แกะคร่าวๆ แล้วไปวางไว้ในที่แห้งและอากาศถ่ายเทดีเพื่อให้ไม้แห้งและลดความชื้น หลังจากนั้นนำไม้กลับมาที่โรงงานเพื่อตกแต่งและขัดแต่งขั้นสุดท้าย โดยใช้ไม้ขัดและกระดาษทราย ผลงานส่วนใหญ่จะวางขายหลังจากขั้นตอนขัดแต่งเสร็จสิ้น แต่บางชิ้นเช่น […]

Read More
ศิลปะ หัตกรรม

กีลิม (พรมทอมือ)

กีลิม (พรมทอมือ) เป็นสิ่งทอแบบง่ายที่ทำจากเส้นยืน (มักเป็นฝ้ายหรือขนสัตว์) และเส้นพุ่ง (ขนสัตว์) ซึ่งโดยทั่วไปทอจากขนสัตว์ของสัตว์เลี้ยง โดยใช้กี่ทอผ้าที่ตั้งขึ้นตรง แต่ละภูมิภาคจะมีลวดลายเฉพาะของตนเอง และมักใช้เป็นพรมปูพื้น การทอกีลิมอาจมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้ใช้ประโยชน์อย่างอื่นนอกเหนือจากพรม โดยเฉพาะในกลุ่มชนเผ่าเร่ร่อน เช่น ใช้ทำถุงเกลือ ผ้าคลุมอานม้า หรือสายรัดเต็นท์ อาจกล่าวได้ว่า ในเอเชียกลาง ยุโรปตะวันออก และแอฟริกาเหนือ ทุกแห่งที่มีการเลี้ยงแพะ แกะ หรืออูฐ และมีความเชี่ยวชาญในการทอพรม ก็มักจะมีกีลิมทอด้วยเช่นกัน ชาวเติร์กเมน คอเคซัส เติร์ก, อาหรับ และชนกลุ่มอื่น ๆ ล้วนผลิตและใช้ผ้าทอมือที่เรียกว่า “กีลิม” กันมา ในวรรณคดีเปอร์เซีย มักใช้คำว่า “กีลิม” แทนความหมายเดียวกับ “ซีลู” หรือ “ญาญีม” (ผ้าทอชนิดอื่น) แต่โดยเฉพาะแล้ว “กีลิม” คือพรมที่ทอโดยการพุ่งเส้นพุ่ง (พุ่งขวาง) ลงบนเส้นยืนที่ขึงไว้บนกี่ทอผ้า โดยไม่ใช้เครื่องมือเสริม เช่น กระสวย เป็นต้น ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้กีลิมแตกต่างจากซีลู ญาญีม หรือสิ่งทออื่น ๆ […]

Read More
ศิลปะ หัตกรรม

نقاشی قهوه خانه ای

نقاشی قهوه‌خانه شیوه‌ای از نقاشی ایرانی است. این نقاشی، نقاشی روایی رنگ روغنی با درون‌مایه‌های رزمی، مذهبی و بزمی است که در اواخر قاجار و اوایل پهلوی هم‌زمان با جنبش مشروطهٔ ایران، اوج گرفت. نمونه‌های قابل توجهی از آثار هنرمندان نقاشی قهوه‌خانه‌ای در موزهٔ رضا عباسی نگهداری می‌شود.مبداء این هنر، سنت قصه‌خوانی و مرثیه‌سرایی و […]

Read More