มัสยิด ญุมอะฮ์ แห่ง Ardabil เป็นมัสยิดในเมือง Ardabil ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอิหร่าน ตามคำบอกเล่าของ Buyuk Jamei มัสยิดแห่งนี้เป็นของยุค Seljuk ซึ่งตั้งอยู่ติดกับวิหารไฟ และอาคารก่อนหน้านี้ของมัสยิดมีความเกี่ยวข้องกับวิหารไฟ มัสยิดญุมอะฮ์ประกอบด้วย ลาน ระเบียง และซุ้มโค้งอันงดงามที่ถูกทำลายจากการโจมตีของมองโกล ปัจจุบันส่วนหนึ่งของมัสยิดยังคงสภาพสมบูรณ์
Sablan ซึ่งมีความสูง 4,811 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เป็นหนึ่งในภูเขาที่มีความสูงของอิหร่าน ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ณ จังหวัด Ardabil เมือง Meshginshahr Sablan เป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับสามของอิหร่าน รองจาก Damavand และ Alam ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในยอดเขา1,515 แห่งที่โดดเด่นที่สุดในโลก Sablan เป็นภูเขาไฟกึ่งคุกรุ่น มีทะเลสาบเล็กๆ บนยอดเขา Sablan ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวเนื่องจากมีสปาธรรมชาติบนไหล่เขา ธรรมชาติในฤดูร้อนที่สวยงาม และสกีรีสอร์ท Alvares นอกจากนี้ บางคนยังถือว่า Sablan เป็นสถานที่ที่ศาสดาพยากรณ์แห่งอิหร่าน (โซโรแอสเตอร์) ถูกส่งลงมา ตัวอย่างสามารถเห็นได้ในหนังสือ “Thus Said Zarathustra” ของ Nietzsche ซึ่งกล่าวถึงการลงมาจากภูเขา Sablan ของ โซโรแอสเตอร์ จากหลักฐานดังกล่าว ที่นี่จึงถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และได้รับความเคารพซึ่งแม้แต่คนพื้นเมืองและคนเร่ร่อนในภูมิภาคก็สาบานด้วยชื่อของมัน
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางมาที่ ซัรอีน เป้าหมายหลักก็คือ เพื่อใช้บริการสปาและบ่อน้ำแร่ของเมืองที่สวยงามแห่งนี้ เมื่อไปถึงทางเข้าเมือง คุณจะเห็นศูนย์วารีบำบัดแห่งแรกในเมือง ซึ่งสร้างขึ้นโดยใช้ชื่อศูนย์วารีบำบัดของอิหร่าน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพแก่ลูกค้า จุดแข็งประการหนึ่งของสถานที่แห่งนี้คือ นอกจากจะมีน้ำพุบำบัดและสระว่ายน้ำขนาดใหญ่แล้ว ยังมีสไลเดอร์จำนวนหนึ่งและสระน้ำพิเศษเพื่อให้เด็ก ๆ ได้สนุกสนานและใช้เวลาว่าง ที่สำคัญที่สุด คอลเลกชันที่แยกเป็น 2 ส่วนสำหรับบุรุษและสตรี นอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้แล้ว ยังมีซาวน่าอบไอน้ำและแห้ง อ่างจากุซซี่ ระบบปรับอากาศและน้ำยาฆ่าเชื้อ และห้องนวดสำหรับลูกค้าที่ใช้บริการในศูนย์แห่งนั้น
โบสถ์ซานตามาเรีย ตั้งอยู่ในเมืองอัรเดบีล ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับวันที่ก่อสร้างที่แน่นอนของโบสถ์แห่งนี้ แต่ประตูทางเข้าสลักาปี 1876 ซึ่งเป็นปีที่มอบและติดตั้งประตู ลักษณะโดยรวมอาคารอิฐของโบสถ์เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า และอาคารสี่เหลี่ยมด้านในปกคลุมด้วยซุ้มโค้งสูงสี่ซุ้ม อาคารหลังนี้มีซุ้มโค้งที่โดดเด่นโดยมีโดมอิฐเป็นรูปทรงร่ม หน้าต่างถูกสร้างใต้โดมและผนังเพื่อให้แสงสว่างเข้ามาในโบสถ์ มีหลุมฝังศพอยู่ในลานและมีไม้กางเขนแกะสลักไว้บนหิน น้ำตกของโบสถ์ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของอาคารตกแต่งด้วยลวดลายเป็นรูปต้นไซเปรสและดอกไม้สีเขียวส้มสดใสพร้อมพื้นหลังสีน้ำเงิน ของประดับตกแต่งบางชิ้นใต้ผนังโบสถ์ทำให้สะดุดตา บนประตูไม้ที่มีลวดลายเรขาคณิตที่สวยงาม ประโยคต่อไปนี้เขียนด้วยตัวอักษรอาร์เมเนียโดยใช้ท่อนไม้ที่ตัดแล้ว “ประตูนี้เป็นบ้านที่แท้จริงของพระเจ้า และได้รับมอบจาก Agalos Melek Mirzalius เพื่อเป็นของที่ระลึกให้กับโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ โบสถ์แห่งนี้ เปิดใช้งานมาจนถึงปี 1944 และในปีเดียวกันนั้นก็มีการจัดพิธีทางศาสนาและการสวดภาวนาเป็นกลุ่มครั้งสุดท้าย ต่อมา เนื่องจากการอพยพของครอบครัวอาร์เมเนียไปยังตับรีซและเตหะราน พิธีทางศาสนาจึงถูกหยุดในโบสถ์แห่งนี้ ปัจจุบันอาคารที่อยู่ติดกันไม่ว่าจะเป็นโรงอาบน้ำได้หายไปแล้ว ขณะนี้อาคารเก่าแก่แห่งนี้ได้รับการบูรณะและฟังก์ชั่นการใช้งานเปลี่ยนไป
กุห์เนะห์กอลอ เป็นชื่อปราสาทโบราณใกล้กับเมืองเมชกีนชาห์ร อาคารหลังนี้ได้รับการจดทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติหมายเลข 618 เป็นปราสาทที่มีความสูง 5 เมตร ตั้งอยู่บนสันเขาด้านตะวันตกทางด้านซ้ายของแม่น้ำเคียว์ชัย และทางด้านขวาของทางเข้าเมืองจากถนนอัรเดบีล โด่งดังในชื่อปราสาทกุห์เนะห์ ซึ่งอยู่ห่างกับปราสาทหิน 150 เมตรที่สามารถมองเห็นจารึกคำว่า Soro Shekan Dashi ได้ มีการจารึกบนหินในยุคปาห์ลาวีโดย Narse Hormazd ซึ่งทำงานก่อสร้างปราสาทแห่งนั้นมาเป็นเวลา 6 ปี เครื่องปั้นดินเผาและภาชนะ ประวัติความเป็นมาของอาคารหลังนี้ย้อนไปถึงสมัย Sasanian แผนผังของปราสาทเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมูที่ไม่เป็นระเบียบตามการแผ่อาณาเขตตะวันตกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงใต้ ด้านข้างของปราสาทยาว 90 เมตร ทางด้านทิศใต้ยาว 237 เมตร ความกว้างของปราสาทแห่งนี้ทางฝั่งตะวันออก 91 เมตร มุมทั้งสองของทิศตะวันตกเฉียงเหนือและทิศใต้ของหอคอยวงกลมมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 6 เมตร และ 10 เมตร ด้านทิศตะวันออกด้านเหนือมองเห็นร่องรอยของหอคอยสองหลังที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 7.5 และ 6 เมตร โครงสร้างของกำแพงปราสาทที่ทำจากหิน ปูนปลาสเตอร์ และปูนขาว ส่วนที่เป็นสภาทำจากดินเหนียว
ป้อมปราการ กะฮ์กะเหะฮ์ อยู่ห่างจากเมืองเมชกีน ชะห์รในจังหวัด อัรเดบีล ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 85 กม. ป้อมปราการแห่งนี้มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์เพราะเคยเป็นสถานที่คุมขังนักการเมืองคนสำคัญ เช่น ลูกหลานกษัตริย์ราชวงศ์ซาฟาวิด ในอดีต กะฮ์กะเหะฮ์ หมายถึง การร้องเพลงดังๆด้วยเสียงหัวเราะ และยังหมายถึงเพลงต้มตุ๋นด้วย ป้อมปราการ กะฮ์กะเหะฮ์ แปลว่า ร้องเพลงเสียงดังด้วยเสียงหัวเราะและยังหมายถึง เสียงนก ป้อมปราการกะฮ์กะเหะฮ์ ตั้งอยู่ในเขต Muradalo ของ Arshak ระหว่างหมู่บ้าน Ganchuye และ Qara Aghaj Kalan แห่ง เมชกีน ชะห์ร อาคารนี้ได้รับการจดทะเบียนในรายชื่ออนุสรณ์สถานแห่งชาติภายใต้หมายเลข 6192 เมื่อวันที่ 7 เมะห์ร ปี 1381
หมู่บ้านนี้อยู่ทางตอนเหนือทางไปหมู่บ้าน โอว์โญร์ อยู่ทางตะวันออกทางไปหมู่บ้าน Shayeq อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ทางไปหมู่บ้าน Shahneshin และอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ทางไปหมู่บ้าน Meimand หมู่บ้านนี้อยู่เหนือระดับน้ำทะเลกว่า 2,000 เมตร มีสภาพอากาศปานกลางในฤดูร้อนและใบไม้ผลิ และหนาวมากในฤดูหนาว ปริมาณน้ำฝนรายปีในอาณาเขตของหมู่บ้านมากกว่า 400 มม. การสำรวจภาคสนามและหลักฐานที่มีอยู่แสดงให้เห็นว่าที่ตั้งหรือการก่อตั้งหมู่บ้านเกิดขึ้นในช่วงประมาณ 3 ศตวรรษหรือมากกว่านั้น หมู่บ้านนี้เคยเป็นทุ่งหญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์ของชาวชาห์เซวอน
ถ้ำแห่งนี้ตั้งอยู่เหนือหมู่บ้านกุห์เนะฮ์ เดะห์ ในพื้นที่ Gachsar ในถนน ชอลูซ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติของแคว้น อัลโบรซ์ ทางเข้าถ้ำแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาของภูมิภาค ทางเดินของถ้ำโดยทั่วไปจะชันและเมื่อถึงส่วนลึกของภูเขาจะพบกับตาน้ำบนพื้นที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งและหินงอกหินย้อยของถ้ำ ความสูงของถ้ำนี้สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,640 เมตร และปากถ้ำกว้าง 3 เมตร สูง 8 เมตร ในช่วงเดือนอิสฟันและฟัรวัรดีน จะเป็นช่วงที่มีน้ำแข็งติดตรงหินงอกหินย้อยที่สวยงามที่สุดของถ้ำ
เพื่อเปลี่ยนทิศทางน้ำจาก ทอเละกอน ไปยัง กัซวีน จึงเริ่มก่อสร้างเขื่อนผันน้ำ Sengban ในเมือง ทอเละกอน ในปี 1348 และอุโมงค์ส่งน้ำยาว 9 กม. ไปยัง Ziyaran และเขื่อนผันน้ำ Ziyaran และชุดคลองชลประทานที่ราบกัซวีน ได้เริ่มต้นขึ้น ในปีเดียวกัน ยังได้มีการศึกษาเกี่ยวกับเขื่อนอ่างเก็บน้ำเพื่อกักเก็บน้ำท่วมในฤดูใบไม้ผลิของแม่น้ำตอเละกอน แต่การก่อสร้างถูกเลื่อนออกไปจนถึงปี 1381 เนื่องจากสภาพของอิหร่าน ในเดือนฟัรวัรดีน ปี1381 การก่อสร้างเขื่อนอ่างเก็บน้ำ ทอเละกอน ได้เริ่มขึ้นและดำเนินการในปี 1385 ความยาวของทะเลสาบประมาณ 10 กิโลเมตร มีรั้วรอบทะเลสาบ ซึ่งไม่สามารถเข้าใกล้ชายฝั่งของทะเลสาบและจับปลาแต่อย่างใด
สวนทิวลิป Gachsar ตั้งอยู่ในกิโลเมตรที่ 52 ของถนน กาลัจช์-ชอลูซ ในภูมิภาค Gachsar หมู่บ้าน Garmab ในทุกปีประมาณเดือนโอรดีเบเฮ็ชจะเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวเพื่อเข้าชมดอกทิวลิปประมาณ 30 ชนิดที่เจริญเติบโตในสวนแห่งนี้ ซึ่งมีความงามอันน่าทึ่งดึงดูดผู้คนจำนวนมากให้มาร่วมงานเทศกาลดอกทิวลิป สวนทิวลิป Gachsar เปิดตัวในปี 1361 โดยมีผู้เข้าชม 600,000 คนภายในเวลาเพียงสองสัปดาห์ในปี 1390 การเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมฟรี